วันศุกร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2558

โครงงานอาชีพ
เรื่อง  วุ้น

จัดทำโดย
นายเกรียงไกร    เรืองรูจี

เสนอ
อาจารย์อนุสรณ์    ฤกษ์บางพลัด
รายงานเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์  CAI  ช่วยสอน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5/4
ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2557




บทคัดย่อ
        โครงงานการทำวุ้นนี้ ได้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาถึงวิธีการทำขนมวุ้น เป็นการศึกษาเชิงปฏิบัติ ทำให้สามารถทำได้จริง ซึ่งได้นำเสนอวิธีการทำขนมวุ้นในแบบต่างๆ ซึ่งคณะผู้จัดทำหวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจไม่มากก็น้อย


























1
บทที่1
บทนำ

ทีมาและความสำคัญ
มีคนนิยมทำวุ้นหลายรสขึ้นมาแปลกใหม่พวกเราจึงคิดค้น IS เกี่ยวกับเรื่องวุ้นว่ามีรสไหนบ้าง มาจากทีไหน ใครคนคิดค้น ทำอย่างไรให้อร่อย เพื่อจะสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ และสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้

วัตถุประสงค์ในการทำโครงงาน
เพื่อศึกษาวิธีการทำขนมวุ้น
เพื่อปฏิบัติจริงในการทำขนมวุ้น


ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1 ทำให้ทราบวิธีการทำขนมวุ้นในแบบต่าง ๆ

2 ทำให้สามารถทำขนมวุ้นรับประทานเองได้

3 สามารถนำไปทำเป็นอาชีพเสริมได้

ขอบเขตการศึกษา
ศึกษาจากเว็บไซต์และสอบถามบุคคลที่รู้เกี่ยวกับการทำวุ้น






2
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง

วุ้น (agar–agar) เป็นสารประกอบของน้ำตาลหลายโมเลกุล (polysaccharide) 2 กลุ่มคือ เอกาโรส (agarose) และเอกาโรเพกติน (agaropectin) ซึ่งสกัดได้จากสาหร่ายทะเลให้วุ้น (agarophytes) เป็นสาหร่ายสีแดงในดิวิชั่นโรโดไฟต้า (Division Rhodophyta) สาหร่ายสกุลที่นิยมใช้เป็นหลักในการสกัดวุ้นในเชิงอุตสาหกรรม ได้แก่ Gelidium. Gracilaria และ Pterocladia โดยใช้สกุล Ceramium, Campylae-phora และ Ahnfeltia เป็นตัวเสริมนอกจากสาหร่ายในสกุลดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกหลายสกุลที่มีความสำคัญในเชิงอุตสาหกรรม เนื่องจากมีการกระจายอยู่ตามชายฝั่งทะเลของประเทศต่างๆ ในเขตศูนย์สูตร และเขตอบอุ่น ซึ่งได้แก่ สาหร่ายในสกุล Gelidiella, Acanthopeltis, Chondrus, Hypnea, Gracilariopsis, Gigartina, Suluria,Phyllophora, Furcellaria และ Eucheuma
สาหร่ายให้วุ้นเหล่านี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามความสามารถในการแข็งตัวของวุ้น (setting power) คือ
1. เจลิเดียม (Gelidium type)
เป็นสาหร่ายชนิดที่ให้วุ้น ซึ่งสามารถแข็งตัวได้ดี แม้จะใช้วุ้นในปริมาณต่ำ
2. กราซิลลาเรีย ฮิบเนีย (Glacilaria, Hypnea type)
เป็นสาหร่ายที่ให้วุ้น ซึ่งจะแข็งตัวได้เมื่อใช้ในปริมาณค่อนข้างสูงหรือต้อง เติมสารอิเล็กทรอไลต์
3. คอนดรัส (Chondrus type)
เป็นสาหร่ายที่ให้วุ้นซึ่งจะแข็งตัวได้ เมื่อใช้ในปริมาณความเข้มข้นสูงเท่านั้น
สาหร่ายให้วุ้น ที่มาจากแหล่งต่างกันจะให้วุ้นในปริมาณและคุณภาพที่ต่างกันไป สำหรับมาตรฐานของสาหร่ายให้วุ้น จะกำหนด จากองค์ประกอบต่างๆ ของสาหร่าย ได้แก่สี ความแห้ง ความแข็งของวุ้น และปริมาณวุ้นที่ได้ รวมทั้ง
ความบริสุทธิ์ของสาหร่าย และปริมาณสิ่งเจือปน
3.อื่นๆ คุณภาพของวุ้นจะขึ้นอยู่กับชนิดและแหล่งที่มาของสาหร่าย สภาพแวดล้อม
ของทะเล รวมทั้งกรรมวิธี การสกัด อันได้แก่ การกำจัดสิ่งเจือปนก่อนสกัดอุณหภูมิ ความดัน ความเป็นกรด ด่าง และระยะเวลาที่ใช้ในการสกัด
ประโยชน์ของวุ้น นอกจากจะใช้เป็นอาหารแล้ว การที่วุ้นมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถแข็งตัวได้ เมื่อใช้ในระดับความเข้มข้นเพียง ร้อยละ 0.5 ทำให้มีการนำวุ้นไปใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมอาหาร โดยเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์นม ขนมปัง และอาหารกระป๋อง เพื่อให้อาหารมีความเหนียวข้นน่ารับประทานและในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เครื่องสำอาง เครื่องหนัง และสิ่งทอ นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ และวิทยาศาสตร์โดยใช้ในการเพาะเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ใช้เป็นส่วนประกอบของยาระบายใช้เป็นทันตวัสดุ และใช้ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช เป็นต้น
วุ้นสกัดได้จากสาหร่ายทะเลสีแดง สกุลกราซิลาเรีย มีชื่อที่ชาวบ้านเรียกทั่วไปหลายชื่อ คือ สาหร่ายผมนาง สาหร่ายวุ้นและสาหร่ายเขากวาง พบทั่วไปแทบทุกจังหวัดตามชายฝั่งทะเลหรือบริเวณเกาะที่มีคลื่นลมสงบ
วิธีการผลิตวุ้นค่อนข้างซับช้อน คือ จะต้องนำสาหร่ายแห้งมาขจัดวัสดุเจือปนโดยล้างด้วยน้ำแล้วนำไปตากแห้ง ทำซ้ำอย่างนี้หลาย ๆ ครั้ง จากนั้นนำไปต้มจนสาหร่ายนิ่ม นำไปบดจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปต้มต่อโดยเติมสารต่าง ๆ เพื่อปรับระดับความเป็นกรดด่างและช่วยในการกรอง เมื่อส่วนผสมต่าง ๆ เป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ก็นำไปกรอง ทิ้งวุ้นให้แข็งตัวจากนั้นจึงนำไปแช่เย็นเพื่อทำให้น้ำแยกตัวออกจากวุ้น เมื่อได้เวลาตามกำหนดจึงนำวุ้นแช่แข็งออกมาปล่อยให้น้ำแข็งละลายล้างวุ้นด้วยน้ำเย็น ทิ้งให้สะเด็ดน้ำแล้วจึงผ่านไปยังขั้นตอนการอบแห้งและบดเป็นผงต่อไป เมื่อเราจะทำวุ้นกิน ก็นำวุ้นผงสำเร็จรูปต้มใส่น้ำ น้ำตาลแล้วทิ้งไว้ให้วุ้นแข็งตัว
อาจมีคนสงสัยต่ออีกว่า แล้ววุ้นเส้นล่ะทำมาจากอะไร ?คำตอบคือ วุ้นเส้นทำมาจากถั่วเขียว การผลิตวุ้นเส้นในประเทศไทยเริ่มมีขึ้นเมื่อ ๔๐ ปีที่แล้วนี่เอง เดิมทีเรายังผลิตวุ้นเส้นได้คุณภาพไม่ดีนัก ต้องส่งเข้ามาจากจีน จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๒๐ วุ้นเส้นที่ผลิตในประเทศจึงเริ่มมีคุณภาพดีขึ้น










บทที 3
วิธีการดำเนินงาน
การดำเนินงานของคณะผู้จัดทำได้ดำเนินงานตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
1. ร่วมกลุ่มกันทำโครงงาน
2. วางแผนการทำงาน
3. ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวกับการทำโครงงาน
4. ดำเนินงานตามเป้าหมาย
5. รวบรวมข้อมูลที่ได้
6. นำเสนอผลงาน



















ขั้นตอนการทำวุ้น
 1.การก่อไฟ2.เครียมน้ำ3.รอน้ำดือด4.ผสมวุ้น5.เทน้ำตาลลงหม้อุ6.ละลายน้ำตาล7.เทผงวุ้นลงหม้อรอประมาณ25นาที่8.เตรียมน้ำกระทิ9.เทน้ำกะทิลงในหม้อที่มี่ต้มวุ้นไว้10.เทลงให้ทั่ว11.เทลงใสภาชนะตามใจชอบ12.ทิ้งไว้ประมาณ30นาที่

                                                                                               



บทที่4
            ผลการดำเนินงาน
อุปกรณ์
1.หม้อเคลือบขนาดพอเหมาะกับปริมาณ 1 ใบ
2.ทัพพี
3.ถาด
4.Dropper
5.พิมพ์วุ้นตามแบบที่เราต้องการ
6.ถ้วยตวงน้ำ/ถ้วยตวงเทวุ้น

ส่วนประกอบในการทำวุ้น
1.น้ำเปล่า 2500 ml.
2.ผงวุ้น25กรัม 1 ซอง
3.กลิ่นผสมขนมตามชอบ
4.สีผสมอาหารตามชอบ
5.น้ำตาล 0.5 กก.
บทที่ 5
สรุปผลและอภิปรายผลงาน
สรุป
การทำโครงงานวุ้นครั้งนี้ทำให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันสืบค้นหาข้อมูลและปฏิบัติเป็นรูปเล่มโครงงานและทำเป็นของหวานเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ และนอกจากนี้ยังเป็นการศึกษาวิธีการทำ และลงมือปฏิบัติได้ด้วยตนเอง
อภิปราย
1.สามารถนำเอาโครงงานมาเป็นแบบอย่างในการศึกษาข้อมูลในการทำครั้งต่อไป
2.ใช้ประโยชน์จากรูปเล่มโครงงานไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
3.นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
4.ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้กับตนเองและครอบครัว
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
ในการทำโครงงานเรื่องวุ้นในครั้งนี้ ทำให้ได้รู้และศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาประยุกต์ใช้และได้รับประโยชน์ ดังนี้
1. รู้และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกวิธี
2. ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆและนำมาจัดทำเป็นรูปเล่มโครงงาน เพื่อการศึกษาต่อไป
3. นำไปประกอบการเรียนรู้ในวิชาที่เกี่ยวข้อง
4. ได้เรียนรู้และฝึกทักษะการทำวุ้น



ข้อเสนอแนะ
เคล็ดลับความอร่อย
เมื่อวุ้นแข็งตัวแล้วควรนำไปแช่ในตู้เย็นก่อนนำมารับประทาน






 โครงงานอาชีพ
เรื่อง  วุ้น

https://encrypted-tbn1.gstatic.com/images?q=tbn:ANd9GcS9kbzd56WoAxCXJ0VObU-WYPJyImiTQg6601UOJi8BNs_RQMIl
จัดทำโดย
นายเกรียงไกร    เรืองรูจี

เสนอ
อาจารย์อนุสรณ์    ฤกษ์บางพลัด
รายงานเรื่องนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงงานวิชาคอมพิวเตอร์  CAI  ช่วยสอน
ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่  5/4
ภาคเรียนที่2 ปีการศึกษา2557




บทคัดย่อ
        โครงงานการทำวุ้นนี้ ได้จัดทำขึ้นเพื่อศึกษาถึงวิธีการทำขนมวุ้น เป็นการศึกษาเชิงปฏิบัติ ทำให้สามารถทำได้จริง ซึ่งได้นำเสนอวิธีการทำขนมวุ้นในแบบต่างๆ ซึ่งคณะผู้จัดทำหวังว่าคงเป็นประโยชน์ต่อผู้สนใจไม่มากก็น้อย


























1
บทที่1
บทนำ

ทีมาและความสำคัญ
มีคนนิยมทำวุ้นหลายรสขึ้นมาแปลกใหม่พวกเราจึงคิดค้น IS เกี่ยวกับเรื่องวุ้นว่ามีรสไหนบ้าง มาจากทีไหน ใครคนคิดค้น ทำอย่างไรให้อร่อย เพื่อจะสามารถนำมาใช้ในชีวิตประจำวันได้ และสามารถทำเป็นอาชีพเสริมได้

วัตถุประสงค์ในการทำโครงงาน
เพื่อศึกษาวิธีการทำขนมวุ้น
เพื่อปฏิบัติจริงในการทำขนมวุ้น


ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1 ทำให้ทราบวิธีการทำขนมวุ้นในแบบต่าง ๆ

2 ทำให้สามารถทำขนมวุ้นรับประทานเองได้

3 สามารถนำไปทำเป็นอาชีพเสริมได้

ขอบเขตการศึกษา
ศึกษาจากเว็บไซต์และสอบถามบุคคลที่รู้เกี่ยวกับการทำวุ้น






2
บทที่ 2
เอกสารที่เกี่ยวข้อง

วุ้น (agar–agar) เป็นสารประกอบของน้ำตาลหลายโมเลกุล (polysaccharide) 2 กลุ่มคือ เอกาโรส (agarose) และเอกาโรเพกติน (agaropectin) ซึ่งสกัดได้จากสาหร่ายทะเลให้วุ้น (agarophytes) เป็นสาหร่ายสีแดงในดิวิชั่นโรโดไฟต้า (Division Rhodophyta) สาหร่ายสกุลที่นิยมใช้เป็นหลักในการสกัดวุ้นในเชิงอุตสาหกรรม ได้แก่ Gelidium. Gracilaria และ Pterocladia โดยใช้สกุล Ceramium, Campylae-phora และ Ahnfeltia เป็นตัวเสริมนอกจากสาหร่ายในสกุลดังกล่าวแล้ว ยังมีอีกหลายสกุลที่มีความสำคัญในเชิงอุตสาหกรรม เนื่องจากมีการกระจายอยู่ตามชายฝั่งทะเลของประเทศต่างๆ ในเขตศูนย์สูตร และเขตอบอุ่น ซึ่งได้แก่ สาหร่ายในสกุล Gelidiella, Acanthopeltis, Chondrus, Hypnea, Gracilariopsis, Gigartina, Suluria,Phyllophora, Furcellaria และ Eucheuma
สาหร่ายให้วุ้นเหล่านี้แบ่งออกเป็น 3 ประเภท ตามความสามารถในการแข็งตัวของวุ้น (setting power) คือ
1. เจลิเดียม (Gelidium type)
เป็นสาหร่ายชนิดที่ให้วุ้น ซึ่งสามารถแข็งตัวได้ดี แม้จะใช้วุ้นในปริมาณต่ำ
2. กราซิลลาเรีย ฮิบเนีย (Glacilaria, Hypnea type)
เป็นสาหร่ายที่ให้วุ้น ซึ่งจะแข็งตัวได้เมื่อใช้ในปริมาณค่อนข้างสูงหรือต้อง เติมสารอิเล็กทรอไลต์
3. คอนดรัส (Chondrus type)
เป็นสาหร่ายที่ให้วุ้นซึ่งจะแข็งตัวได้ เมื่อใช้ในปริมาณความเข้มข้นสูงเท่านั้น
สาหร่ายให้วุ้น ที่มาจากแหล่งต่างกันจะให้วุ้นในปริมาณและคุณภาพที่ต่างกันไป สำหรับมาตรฐานของสาหร่ายให้วุ้น จะกำหนด จากองค์ประกอบต่างๆ ของสาหร่าย ได้แก่สี ความแห้ง ความแข็งของวุ้น และปริมาณวุ้นที่ได้ รวมทั้ง
ความบริสุทธิ์ของสาหร่าย และปริมาณสิ่งเจือปน
3.อื่นๆ คุณภาพของวุ้นจะขึ้นอยู่กับชนิดและแหล่งที่มาของสาหร่าย สภาพแวดล้อม
ของทะเล รวมทั้งกรรมวิธี การสกัด อันได้แก่ การกำจัดสิ่งเจือปนก่อนสกัดอุณหภูมิ ความดัน ความเป็นกรด ด่าง และระยะเวลาที่ใช้ในการสกัด
ประโยชน์ของวุ้น นอกจากจะใช้เป็นอาหารแล้ว การที่วุ้นมีคุณสมบัติพิเศษคือสามารถแข็งตัวได้ เมื่อใช้ในระดับความเข้มข้นเพียง ร้อยละ 0.5 ทำให้มีการนำวุ้นไปใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรมอาหาร โดยเป็นส่วนผสมในผลิตภัณฑ์นม ขนมปัง และอาหารกระป๋อง เพื่อให้อาหารมีความเหนียวข้นน่ารับประทานและในอุตสาหกรรมอื่นๆ เช่น เครื่องสำอาง เครื่องหนัง และสิ่งทอ นอกจากนี้ยังใช้ประโยชน์ในทางการแพทย์ และวิทยาศาสตร์โดยใช้ในการเพาะเลี้ยงเชื้อจุลินทรีย์ใช้เป็นส่วนประกอบของยาระบายใช้เป็นทันตวัสดุ และใช้ในการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อพืช เป็นต้น
วุ้นสกัดได้จากสาหร่ายทะเลสีแดง สกุลกราซิลาเรีย มีชื่อที่ชาวบ้านเรียกทั่วไปหลายชื่อ คือ สาหร่ายผมนาง สาหร่ายวุ้นและสาหร่ายเขากวาง พบทั่วไปแทบทุกจังหวัดตามชายฝั่งทะเลหรือบริเวณเกาะที่มีคลื่นลมสงบ
วิธีการผลิตวุ้นค่อนข้างซับช้อน คือ จะต้องนำสาหร่ายแห้งมาขจัดวัสดุเจือปนโดยล้างด้วยน้ำแล้วนำไปตากแห้ง ทำซ้ำอย่างนี้หลาย ๆ ครั้ง จากนั้นนำไปต้มจนสาหร่ายนิ่ม นำไปบดจนเป็นเนื้อเดียวกัน แล้วนำไปต้มต่อโดยเติมสารต่าง ๆ เพื่อปรับระดับความเป็นกรดด่างและช่วยในการกรอง เมื่อส่วนผสมต่าง ๆ เป็นเนื้อเดียวกันแล้ว ก็นำไปกรอง ทิ้งวุ้นให้แข็งตัวจากนั้นจึงนำไปแช่เย็นเพื่อทำให้น้ำแยกตัวออกจากวุ้น เมื่อได้เวลาตามกำหนดจึงนำวุ้นแช่แข็งออกมาปล่อยให้น้ำแข็งละลายล้างวุ้นด้วยน้ำเย็น ทิ้งให้สะเด็ดน้ำแล้วจึงผ่านไปยังขั้นตอนการอบแห้งและบดเป็นผงต่อไป เมื่อเราจะทำวุ้นกิน ก็นำวุ้นผงสำเร็จรูปต้มใส่น้ำ น้ำตาลแล้วทิ้งไว้ให้วุ้นแข็งตัว
อาจมีคนสงสัยต่ออีกว่า แล้ววุ้นเส้นล่ะทำมาจากอะไร ?คำตอบคือ วุ้นเส้นทำมาจากถั่วเขียว การผลิตวุ้นเส้นในประเทศไทยเริ่มมีขึ้นเมื่อ ๔๐ ปีที่แล้วนี่เอง เดิมทีเรายังผลิตวุ้นเส้นได้คุณภาพไม่ดีนัก ต้องส่งเข้ามาจากจีน จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๒๐ วุ้นเส้นที่ผลิตในประเทศจึงเริ่มมีคุณภาพดีขึ้น










บทที 3
วิธีการดำเนินงาน
การดำเนินงานของคณะผู้จัดทำได้ดำเนินงานตามขั้นตอนต่าง ๆ ดังนี้
1. ร่วมกลุ่มกันทำโครงงาน
2. วางแผนการทำงาน
3. ศึกษาเอกสารที่เกี่ยวกับการทำโครงงาน
4. ดำเนินงานตามเป้าหมาย
5. รวบรวมข้อมูลที่ได้
6. นำเสนอผลงาน



















ขั้นตอนการทำวุ้น
 1.การก่อไฟ2.เครียมน้ำ3.รอน้ำดือด4.ผสมวุ้น5.เทน้ำตาลลงหม้อุ6.ละลายน้ำตาล7.เทผงวุ้นลงหม้อรอประมาณ25นาที่8.เตรียมน้ำกระทิ9.เทน้ำกะทิลงในหม้อที่มี่ต้มวุ้นไว้10.เทลงให้ทั่ว11.เทลงใสภาชนะตามใจชอบ12.ทิ้งไว้ประมาณ30นาที่

                                                                                               



บทที่4
            ผลการดำเนินงาน
อุปกรณ์
1.หม้อเคลือบขนาดพอเหมาะกับปริมาณ 1 ใบ
2.ทัพพี
3.ถาด
4.Dropper
5.พิมพ์วุ้นตามแบบที่เราต้องการ
6.ถ้วยตวงน้ำ/ถ้วยตวงเทวุ้น

ส่วนประกอบในการทำวุ้น
1.น้ำเปล่า 2500 ml.
2.ผงวุ้น25กรัม 1 ซอง
3.กลิ่นผสมขนมตามชอบ
4.สีผสมอาหารตามชอบ
5.น้ำตาล 0.5 กก.
บทที่ 5
สรุปผลและอภิปรายผลงาน
สรุป
การทำโครงงานวุ้นครั้งนี้ทำให้สมาชิกในกลุ่มช่วยกันสืบค้นหาข้อมูลและปฏิบัติเป็นรูปเล่มโครงงานและทำเป็นของหวานเพื่อให้สำเร็จตามวัตถุประสงค์ที่ต้องการ และนอกจากนี้ยังเป็นการศึกษาวิธีการทำ และลงมือปฏิบัติได้ด้วยตนเอง
อภิปราย
1.สามารถนำเอาโครงงานมาเป็นแบบอย่างในการศึกษาข้อมูลในการทำครั้งต่อไป
2.ใช้ประโยชน์จากรูปเล่มโครงงานไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติม
3.นำไปปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
4.ลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ให้กับตนเองและครอบครัว
ประโยชน์ที่ได้รับจากโครงงาน
ในการทำโครงงานเรื่องวุ้นในครั้งนี้ ทำให้ได้รู้และศึกษาข้อมูลจากแหล่งต่างๆ มาประยุกต์ใช้และได้รับประโยชน์ ดังนี้
1. รู้และนำไปปฏิบัติได้อย่างถูกวิธี
2. ได้ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมจากแหล่งต่างๆและนำมาจัดทำเป็นรูปเล่มโครงงาน เพื่อการศึกษาต่อไป
3. นำไปประกอบการเรียนรู้ในวิชาที่เกี่ยวข้อง
4. ได้เรียนรู้และฝึกทักษะการทำวุ้น



ข้อเสนอแนะ
เคล็ดลับความอร่อย
เมื่อวุ้นแข็งตัวแล้วควรนำไปแช่ในตู้เย็นก่อนนำมารับประทาน











ภาคผนวก









ภาคผนวก